หงส์แดง ยังไร้พ่ายหลังบุกเชือดสิงห์บลูส์ แบบหวุดหวิด 2-1

 

“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ยังหาชัยชนะเกมเหย้าไม่เจอ นับตั้งแต่เปิดซีซัน หลังพ่าย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูง ไปแบบหวุดหวิด 1-2 ในเกมซุเปอร์ ซันเดย์

พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2019-20
เชลซี 1-2 ลิเวอร์พูล

เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ส่ง โรแบร์โต เฟอร์มิโน ยืนศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน ซาดิโอ มาเน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล่าตาข่าย เชลซี ที่มี แทมมี อบราฮัม , วิลเลียน และ เมสัน เมาน์ท เป็นความหวังแนวรุก

ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 นาที 14 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตอกส้นเปลี่ยนจุดให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตะบันฟรีคิกตรงหัวกะโหลก เสียบมุมสุดสวย เชลซี หวิดทวงคืนทันควัน แทมมี อบราฮัม หลุดมาล่อเป้ากับ อาเดรียน นายทวาร แต่ยิงติดเซฟ

กองเชียร์ เจ้าถิ่น เฮเก้อ นาที 27 เมสัน เมาน์ท ใส่พานให้ แทมมี อบราฮัม ยิงจ่อๆ ติดเซฟ อาเดรียน นายทวาร และ เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา ซ้ำตุงตาข่าย ผู้ตัดสินตรวจสอบภาพรีเพลย์ (VAR) พบว่า เมาน์ท ล้ำหน้าแค่ครึ่งก้าว จากนั้น ทีมเยือน ตอบโต้นาที 30 แอนดี โรเบิร์ตสัน เปิดฟรีคิกฝั่งซ้าย โรแบร์โต เฟอร์มิโน โขกเต็มหน้าผาก หนีไปเป็น 2-0

เกมแลกกันดุเดือดครึ่งหลัง กระทั่งนาที 71 “เดอะ บลูส์” จุดประกายความหวัง เอ็น’โกโล ก็องเต ลากทะลวงตรงกลาง ยิงแบบฉีดยาด้วยขวา ไล่มาเป็น 1-2 แล้วกดดันต่อเนื่อง นาที 88 มาร์กอส อลอนโซ แบ็กซ้าย เปิดโค้งๆ ให้ มิชิ บาตชัวยี ตัวสำรอง สะบัดเฉี่ยวเสาไกล

ทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ปล่อยโอกาสทองหลุดลอย นาที 90 มาร์กอส อลอนโซ จ่ายมาเสาแรกให้ จอร์จินโญ ชาร์จโล่งๆ ไม่ตรงกรอบ จบเกม ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 18 แต้ม จาก 6 นัด ส่วน เชลซี สถิติ เสมอ 2 แพ้ 1 เฉพาะในบ้าน มี 8 แต้ม เท่าเดิม หล่นอันดับ 11

รายชื่อ 11 ตัวจริง
เชลซี : เกปา อาร์ริซาบาลากา , ฟิกาโย โทโมริ , อันเดรียส คริสเตนเซน , เอเมอร์สัน พาลมิเอรี , เซซาร์ อัซปิลิคูเอตา , จอร์จินโญ , มาเตโอ โควาซิช , เอ็น’โกโล ก็องเต , แทมมี อบราฮัม , เมสัน เมาน์ท , วิลเลียน

ลิเวอร์พูล : อาเดรียน , เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ก , โจเอล มาติป , แอนดี โรเบิร์ตสัน , เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ , ฟาบินโญ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม , โรแบร์โต เฟอร์มิโน , ซาดิโอ มาเน , โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ผลฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2019-20 ประจำวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน
อาร์เซนอล 3-2 แอสตัน วิลลา
[0-1 จอห์น แม็คกินน์ น.20 , 1-1 นิโคลัส เปเป้ (จุดโทษ) น.59 , 1-2 เวสลีย์ น.60 , 2-2 คาลัม เชมเบอร์ส น.81 , 3-2 ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง น.84]