ยังไม่จบ ตร.อเมริกาเรียกเก็บ DNA โด้ เพื่อสอบสวนเหตุข่มขืน

 

ตำรวจรัฐเนวาดา ได้รับอนุมัติหมาย เพื่อขอเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ ของ คริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังสังกัด ยูเวนตุส ประกอบการสอบสวน คดีขืนใจสาวที่มหานคร ลาส เวกัส

โรนัลโด วัย 33 ปี หนึ่งในสุดยอดนักเตะตลอดกาลของโลก ปฏิเสธเสียงแข็งหลังถูกกล่าวหาว่า กระทำชำเรา และเผยผ่านทนายความส่วนตัว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (10 ม.ค.) ว่าการมีเพศสัมพันธ์ครั้งนั้น เกิดจากความยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย

ประเด็นอื้อฉาวกลายเป็นจุดสนใจ เดือนกันยายน 2018 หลัง เคธริน มายอร์กา ยื่นฟ้อง ที่ศาล คลาร์ก เคาน์ตี มลรัฐเนวาดา กรณีถูก อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ รีล มาดริด ข่มขืน ณ ห้องสวีตของโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2009 แล้วจ่ายเงินปิดปาก 3.75 แสนเหรียญสหรัฐ (ราว 12 ล้านบาท)

ทนายฝ่ายโจทก์ เผยว่า มายอร์กา ต้องการเรียกค่าเสียหาย 2 แสนเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 64 ล้านบาท) และยกเลิกข้อตกลงลับๆ ซึ่งถูก ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการปกป้องชื่อเสียงที่มี โรนัลโด เป็นผู้ว่าจ้าง บังคับให้เซ็นชื่อ

ล่าสุด “วอลล์ สตรีท เจอร์นัล” สำนักข่าวของ สหรัฐอเมริกา รายงาน พนักงานสอบสวนต้องการตรวจสอบ ดีเอ็นเอ ของ โรนัลโด ตรงกับตัวอย่างต้องสงสัยบนเสื้อผ้าของ มายอร์กา หรือไม่

ลอรา เมลท์เซอร์ โฆษกหญิงกรมตำรวจ ส่ง อี-เมล ถึงสำนักข่าว “รอยเตอร์ส” ชี้แจงว่า การเรียกเก็บตัวอย่าง DNA เป็นกระบวนการเดียวกับการสอบสวนคดีข่มขืนรายอื่นๆ เพื่อการรวบรวมหลักฐาน และมีการส่งคำร้องอย่างเป็นทางการ ถึงอัยการประเทศอิตาลี

ด้าน ปีเตอร์ คริสเตียนเซน ทนายความฝ่ายจำเลย ตอบโต้ “โรนัลโด ยืนยันมาตลอดเช่นเดียวกับวันนี้ว่า เหตุการณ์ที่ ลาส เวกัส เมื่อปี 2009 เป็นการมีเพศสัมพันธ์ตามความยินยอม จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีหลักฐาน DNA ปรากฏอยู่”